ด้วยความไม่รู้ ผมติดปัญหาในการเขียน Code หลายต่อหลายครั้ง ผมก็มักจะค้นหาสาเหตุว่ามันติดตรงไหน ซึ่งบางทีผมเสียเวลา 2-3 สัปดาห์ เพื่อแก้ปัญหา ในสิ่งที่ผมไม่เคยเจอ
และผมรู้สึกอายที่จะไปถามคนอื่น กลัวเขาจะว่า..อะไรวะแค่นี้ก็ทำไม่ได้ ซึ่งมันเป็นความกลัวที่ผมมโนขึ้นมาเอง จริงๆ อ. ที่ปรึกษา พี่ๆน้องๆ ที่ช่วยเหลือกันยังมีอีกมาก น้ำใจที่คอยช่วยเหลือแบ่งปัน ผมซาบซึ้งยิ่งนักซึ่งผมเองได้ค้นพบว่า การเรียนรู้จากประสบการณ์ตัวเองนั้นใช้เวลาค่อนข้างมาก
ในขณะที่ สอบถามปัญหากับผู้ที่รู้แจ้งนั้นใช้เวลาแก้ปํญหา เพียงไม่กี่นาที หรือไม่กี่ชั่วโมงก็สำเร็จได้ เฉกเช่นเดียวกับ การเดินเข้าป่าทึบ มีผู้บุกเบิกสำเร็จรออยู่ที่ยอดเขา เขาต้องเดินฝ่าปัญหาอุปสรรค กว่าจะไปอยู่ตรงนั้นได้ เขาผ่านมาหมดแล้ว เขามองเห็นว่าทางที่เราเดินมันจะมีอุปสรรคขวางหนามอะไรอยู่ตรงหน้า เขาพยายามบอก พยายามชี้แนะ ให้เลี่ยง ให้หลบ เพื่อที่จะก้าวผ่านมันไป(ไม่ต้องมาเสียเวลา เดินไปทางนี้แล้วเจอทางตัน หรือ เดินไปข้างหน้าจะเป็นเหว บางคนเชื่อ บางคนไม่เชื่อ เพราะต้องการที่จะค้นหาเส้นทางเดินของตัวเอง) ที่สำคัญที่สุดที่ระหว่างที่ผมเดินตามทางนั้นไป ผมได้มิตรภาพ ดีๆ ระหว่าง ผู้ที่สำเร็จ คอยชี้แนะ น้ำใจของคนที่คอยช่วยเหลือผู้อื่นที่กำลังพบเจอปัญหา ผมไม่มีวันลืม
ผมเคยเป็น 1 ในคนที่ไม่เชื่อ แต่วันนี้ผมเปลี่ยนความคิดแล้วว่าการเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่น นั้นทำให้ผมเอาเวลาที่ผมมีไปทำประโยชน์อย่างอื่น หรือทำภาพรวมของงานให้ประสบความสำเร็จ ใช้เวลาที่น้อยกว่า ซึ่ง เวลาในชีวิตของเรา มี 24 ชั่วโมงเท่ากัน ให้เวลากับงานพอสมควร และควรใช้เวลาอยู่กับครอบครัวให้คุ้มค่านะครับ
"คนเก่งมักเรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเอง คนฉลาดมักเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่น"
ปล. สุดท้ายถ้าหากได้รับคำแนะนำแล้วยังทำไม่ได้ ให้พนมมือแล้วทำแบบในรูปครับ รับรองบุญจะส่งให้เราสุขใจครับ

มันเป็นเรื่องจริงครับ
กิจจา ชาญธัญกรรม
14 ส.ค. 58
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น